MAXX Series RFPC
นวัตกรรมการผลิตแป้งข้าว
โดยใช้กระบวนการผลิตแป้งข้าว ชนิดโม่น้ำ ขนาดกะทัดรัด
"แม็กซ์เท็กซ์" ผู้นำแห่งวงการเทคโนโลยี นวัตกรรม และเครื่องจักรอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งโดดเด่นในวงการ "ข้าว" มากว่า 30 ปี ได้สร้างนวัตกรรมการผลิตแป้งข้าวชนิดโม่น้ำ Maxx Series กระบวนการผลิตแป้งข้าว ชนิดโม่น้ำ ที่ผลิตแป้งข้าวคุณภาพสูงหลากหลายชนิด
รวมถึงการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น สินค้าแม่และเด็ก ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม อาหารเสริม เป็นต้น
สร้างมูลค่าเพิ่ม
แปรรูปวัตถุดิบราคาถูก (เช่น ปลายข้าว) เป็นแป้งข้าวและช่วยเพิ่มมูลค่าได้มากกว่า 180%
กำลังการผลิตสูง
กำลังการผลิตตั้งแต่ 75 - 250 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
ขนาดกะทัดรัด
เครื่องขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่เริ่มต้นเพียง 80 ตร.ม. สามารถถอดประกอบและเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ ถูกสุขอนามัย เหมาะสำหรับธุรกิจ SMEs และ startups
ทำไมต้อง MAXX SERIES RFPC
Maxx Series นวัตกรรมการแปรรูปข้าวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ออกแบบมาเพื่อแปรรูปข้าวให้เป็นแป้งดิบด้วยกรรมวิธีโม่น้ำ ทำให้ได้แป้งที่มีคุณภาพสูงกว่าแป้งที่ได้จากกระบวนการโม่แป้งแบบอื่น ๆ ได้แป้งที่มีระยะเวลาในการเก็บรักษายาวนาน มีความละเอียดสูงสุด และคุณภาพดีที่สุด
ทำไมต้อง Compact Unit
สามารถติดตั้งได้ง่าย ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย เคลื่อนย้ายสะดวก
วัสดุโครงสร้าง และเครื่องจักรทำจากสแตนเลส (STAINLESS STEEL) รองรับ Food Grade ในการผลิต
Maxx Series มีขนาดกะทัดรัด กำลังการผลิต 75 - 250 กิโลกรัม ต่อชั่วโมง ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับการผลิตจากวัตถุดิบจำนวนน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องโม่น้ำขนาดใหญ่ทั่วไปที่ต้องเริ่มต้นที่จำนวนขั้นต่ำ 1,000 กิโลกรัม และใช้ขนาดพื้นที่โรงงานและการติดตั้งเครื่องจักรขนาดใหญ่
ควบคุมด้วยระบบ touch screen อัจฉริยะ
นอกจากนี้การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของเรา ทำให้สามารถใช้วัตถุดิบในการผลิตเบื้องต้นจำนวนน้อยลงได้ในแต่ละครั้ง และง่ายต่อการสลับเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบอื่น ๆ
ขั้นตอนในการทำความสะอาดง่าย สะดวก และปลอดภัย ตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาดของ FDA, HACCP, GMP, HALAL และ GHP
มีระบบควบคุมเครื่องจักรอัจฉริยะ บำรุงรักษาง่ายไม่ยุ่งยาก
คืนทุนเร็ว
ทำไมต้องใช้กรรมวิธีโม่น้ำ
ผู้บุกเบิกและผู้นำระดับโลกในการสร้างนวัตกรรมอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับกระบวนการโม่แป้งข้าว
สามารถยืดอายุของแป้งได้ยาวนานถึง 2 ปี นานกว่าผลผลิตที่ได้จากการผลิตในแบบอื่น ๆ ทั้งแบบโม่แห้งและโม่ผสม
ได้แป้งที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 100 Mesh หรือมากกว่า
ได้แป้งที่มีคุณสมบัติดีที่สุดเมื่อเทียบกับแป้งที่ผลิตด้วยกรรมวิธีโม่แห้งหรือโม่ผสม
การผลิตแบบโม่น้ำทำให้ได้แป้งที่ยังคงสีตามธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นหืนตลอดอายุการใช้งาน
ค่าความหนืดประมาณ 300 B.U.
สามารถกำหนดค่าความชื้นได้ระหว่าง 11-13% ตามความต้องการของลูกค้า
คงกลิ่นตามธรรมชาติ
วัตถุดิบผ่านการล้าง ซาวข้าว หลายขั้นตอน ทำให้สามารถคัดแยกเมล็ดข้าวที่ไม่สมบูรณ์และกำจัดสิ่งเจือปนออกไปก่อนเข้ากระบวนการการผลิตได้มากที่สุด
ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการควบคุมเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนเพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารและยืดอายุการใช้งาน
สามารถนำผลผลิตไปใช้แบบแป้งดิบ หรืออาจนำไปผสมกับส่วนผสมอื่นเพื่อใช้ในการทำเมนูที่หลากหลาย อาทิ เบเกอรี่, ของหวาน, ขนม, ขนมปัง, พิซซา, เทมปุระ
ขั้นตอนในการทำความสะอาดง่าย สะดวก และปลอดภัย ตามเกณฑ์มาตรฐานอาหารสะอาดของ FDA, HACCP, GMP, HALAL และ GHP
ไม่มีสารกลูเตน
คุ้มค่าการลงทุน
ความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา
Maxtex เล็งเห็นความโดดเด่นของกระบวนการผลิต Maxx Series ที่เราได้สร้าง Innovation, Technology , Know how, Technical Processing ระดับ World Class เพื่อส่งต่อถึงลูกค้าที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งผลกำไรที่เกินคาด, มูลค่าเพิ่มอย่างทวีคูณ, รายได้สูงต่อปี และสามารถคืนทุนด้วยความรวดเร็ว
ดังนั้น ขอบคุณทีม R&D ที่ทุ่มเท มุ่งมั่น ตั้งใจ สร้างสรรค์ พัฒนาผลงานต่าง ๆ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับ
ทีม R&D ยังคงขับเคลื่อนการพัฒนาผลงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำการต่อยอดธุรกิจ ในการนำพาประโยชน์ที่จะได้รับ และเพื่อทำการเผยแพร่องค์ความรู้ไปสู่หลายภาคส่วนในวงการเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อความยั่งยืนตลอดไป..
ทีม R&D เป็นหน่วยงานสำคัญในการพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ การหาผลิตภัณฑ์ใหม่ การหาวัตถุดิบใหม่ นำเสนอในตลาดเพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มขึ้น
- เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ สินค้า ที่มีอยู่เดิมให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น มีต้นทุนที่ลดลง ทำงานง่ายขึ้น
- เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ สินค้า ให้มีความหลากหลาย และแปลกใหม่อยู่เสมอ
- เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพราะว่าลูกค้ามีความคาดหวังในคุณภาพของเครื่องจักร สินค้า เป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจซื้อขาย
- เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดกำไรมากขึ้น เป็นแบบอย่างให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ และเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพิ่มความชำนาญในการทำงานไว้พัฒนาผลิตภัณฑ์
คืนทุนในระยะเวลาสั้น
ระยะเวลาคืนทุนเร็ว ลูกค้าสามารถลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายสายการผลิตในอนาคตด้วยต้นทุนที่ต่ำ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องสร้างระบบสาธารณูปโภคเพิ่มเติมหรือจ้างบุคลากรเพิ่มอีก
ลูกค้าสามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้เหมาะกับวัตถุดิบอินทรีย์ (ออร์แกนิค) เช่น ข้าวอินทรีย์ (ออร์แกนิค) รวมถึงพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ได้ อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ถั่ว ข้าวโพด และธัญพืชต่าง ๆ